ชำระค่าไฟออนไลน์ จ่ายค่าไฟผ่านแอปฯไหนดี? ขั้นตอนการสมัคร?

จ่ายค่าไฟออนไลน์

ปัจจุบันนี้การจ่ายค่าไฟทำได้สะดวกสบายมากขึ้น โดยสามารถจ่ายผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้หลากหลายแอปฯสำหรับใครที่ไม่สะดวกไปจ่ายที่ร้านสะดวกซื้อหรือ จ่ายที่การไฟฟ้าในทุกรอบบิล วันนี้เราได้รวบรวมแอปฯ ที่ใช้จ่ายค่าไฟได้มาฝากกัน จะมีแอปฯไหนบ้างมาดูกันเลย

ชำระค่าไฟออนไลน์ จ่ายค่าไฟผ่านแอปฯไหนดี? ขั้นตอนการสมัคร? ทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้

TrueMoney Wallet

ชำระค่าไฟ1

แอปฯนี้เป็นแอปฯอเนกประสงค์ที่มีบริการหลากหลาย หากต้องการใช้ชำระค่าไฟก็ทำได้สำหรับขั้นตอนการชำระนั้นง่ายมาก ดังต่อไปนี้

  1. เข้าแอปฯ TrueMoney Wallet
  2. เลื่อนไปที่เมนมูเติมเงินและจ่ายบิล จากนั้นเลือก “บิลค่าน้ำ ค่าไฟ”
  3. คลิกที่ “การไฟฟ้านครหลวง/การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค”
  4. กรอก “บัญชีแสดงสัญญาเลขที่/หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า 12 หลัก” จากนั้นกดถัดไป
  5. เลือกชำระผ่าน TrueMoney Wallet/บัตรเครดิต-บัตรเดบิต/บัญชีธนาคาร
  6. กดปุ่ม “ชำระเงิน”
  7. ระบบจะส่งรหัส OTP มาให้ กรอกรหัสให้เรียบร้อยแล้วกดยืนยันการชำระเงิน
  8. ระบบจะรายงานผลการชำระและใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีผู้ใช้ไฟฟ้าจะถูกส่งให้ในภายหลัง

MEA Smart Life

ชำระค่าไฟ2

MEA Smart Life เป็นแอปฯของการไฟฟ้านครหลวง สำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรีและสมุทรปราการ สามารถใช้ชำระค่าไฟ ติดตามค่าไฟ คำนวณค่าไฟ ติดตามข้อมูลข่าวสาร ขอใช้ไฟฟ้าหรือแจ้งเหตุขัดข้องต่างๆได้ สำหรับการจ่ายค่าไฟ หากค้างจ่ายหลายเดือนจะเลือกชำระแค่บางเดือนก็ได้เช่นเดียวกัน

  1. ดาวน์โหลดแอปฯ MEA Smart Life จาก Play Store/App Store
  2. ลงทะเบียนใช้งานแอปฯด้วยเบอร์โทรศัพท์และหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก จากนั้นกดยืนยัน
  3. กดยอมรับข้อตกลงการใช้งาน
  4. ระบบจะส่งรหัส OTP มาให้ นำรหัสมามากรอกให้เรียบร้อยแล้วกดยืนยัน
  5. กดปุ่ม “เพิ่มเครื่องวัดฯ”
  6. กรอกบัญชีแสดงสัญญาเลขที่ (9 หลัก) และรหัสเครื่องวัดไฟฟ้า (8 หลัก)
  7. ในกรณีที่มีบิลค่าไฟ สามารถเลือกวิธีสแกนเอาได้ โดยกดปุ่ม “ตัวอ่านคิวอาร์โค้ด” จากนั้นนำไปสแกนคิวอาร์โค้ดบนบิลค่าไฟ ระบบก็จะแสดงข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ
  8. เริ่มทำรายการชำระค่าไฟโดยกดปุ่ม “ชำระค่าไฟ”จากนั้นเลือกบิลที่ต้องการชำระ (ในกรณีมีบิลค้างชำระหรือมีบิลค่าไฟหลายบ้าน) หากค้างชำระต้องเลือกจ่ายบิลเก่าที่สุดก่อน
  9. เลือกช่องทางการชำระเงิน จากนั้นดำเนินกากรตามขั้นตอนจนกว่าจะเสร็จเรียบร้อย

PEA Smart Plus

ชำระค่าไฟ3

ส่วนใครที่อาศัยอยู่นอกพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรีและสมุทรปราการ หากต้องการใช้แอปฯของการไฟฟ้า ต้องใช้ PEA Smart Plus สำหรับบริการต่างๆรวมไปถึงการชำระค่าไฟฟ้านั้นคล้ายคลึงกับแอปฯ MEA Smart Life ดังต่อไปนี้

  1. ดาวน์โหลดแอปฯ PEA Smart. Life จาก Play Store/App Store
  2. ลงทะเบียนใช้งานแอปฯด้วยหมายเลขโทรศัพท์ และ เลขบัตรประจำตัวประชาชน
  3. ระบบจะส่งรหัส OTP มาทาง SMS กรอกให้เรียบร้อย แล้วกดยืนยัน
  4. กดเพิ่มสถานที่ใช้ไฟฟ้า
  5. ระบุหมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้าและ รหัสเครื่องวัด (ดูตัวอย่างข้อมูลที่ต้องกรอกได้จากในแอปฯ)
  6. เมื่อกรอกเสร็จแล้วจะปรากฏข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า
  7. ทำรายการชำระค่าไฟฟ้าโดยกดที่เมนู “ชำระเงิน” ด้านล่าง
  8. เลือกรายการที่ต้องการชำระ แล้วกดปุ่ม “ถัดไป”
  9. เลือกวิธีการชำระได้ตามสะดวก สำหรับใครที่อยากสแกนจ่ายก็กดดูคิวอาร์โค้ด แล้วบันทึกภาพ จากนั้นนำไปสแกนจ่ายใน Mobile Banking ได้เลย

Mobile Banking

ชำระค่าไฟ4

Mobile Banking ของทุกธนาคารจะมีบริการจ่ายบิลต่างๆด้วยไม่ว่าจะค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ฯลฯ ถึงแม้หน้าของแอพพลิเคชันจะแตกต่างกัน แต่วิธีการจ่ายค่าไฟนั้นจะคล้ายๆกัน ดังนี้

  1. เข้าแอปฯ Mobile Banking
  2. หากมีบิลค่าไฟก็สามารถนำมาสแกน OQ Code ได้เลย เมื่อสแกนแล้วจะมีข้อมูลการชำระปรากฏขึ้น จึงทำเพียงแค่กดตกลงเพื่อยืนยันการชำระเท่านั้น
  3. หากไม่มีบิลค่าไฟ ให้ไปที่บริการ “จ่ายบิล” ซึ่งอาจจะมีชื่อองค์กรปรากฏขึ้นมาเลยหรืออาจจะอยู่ในกลุ่มของ “สาธารณูปโภค” ก็ได้ เมื่อเจอแล้ว (การไฟฟ้านครหลวง/การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) ให้คลิกเข้าไป แล้วกรอกบัญชีแสดงสัญญาเลขที่หรือหมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า
  4. จากนั้นระบบจะแจ้งยอดชำระ ให้กดตกลงเพื่อทำธุรกรรมให้สำเร็จ

จะเห็นได้ว่าการจ่ายค่าไฟด้วยตัวเองผ่านแอปฯต่างๆนั้นทำได้ไม่อยากเลย ใครสนใจใช้แอปฯไหนก็ไปดาวน์โหลดมาใช้กันได้ แต่ถ้าเน้นเป็นแอปฯที่ให้บริการเกี่ยวกับการชำระค่าไฟโดยตรง MEA Smart Life และ PEA Smart Plus จะตอบโจทย์มากที่สุด