ผัก 5 ชนิด ต้องปรุงสุกก่อนกิน ไม่เช่นนั้นอาจถึงตาย

ผัก 5 ชนิด

ผักเป็นอาหารที่มีประโยชน์ และเต็มไปด้วยวิตามินซึ่งทุกคนต่างก็รู้กันดีอยู่แล้ว บางคนชอบกินผักสด ๆ เพราะได้ความหวานกรอบและสดชื่น นอกจากนั้นยังมีความเข้าใจกันโดยทั่วไปว่า การกินผักสด ๆ จะทำให้ร่างกายของเราได้รับวิตามินอย่างเต็มที่เพราะความร้อนจากการหุง ต้ม ทอด นึ่ง ต่าง ๆ นั้น จะทำให้วิตามินสูญเสียไป ในผักพันธุ์ต่าง ๆ ส่วนใหญ่ก็เหมาะที่จะกินสดตามความเข้าใจเช่นนั้น แต่ก็ยังมีผักอีกบางประเภทที่ไม่ควรนำมากินสด ควรผ่านการปรุงสุกและผ่านความร้อนก่อนกิน มิเช่นนั้นแล้วอาจทำให้มีอันตรายถึงตาย หรือเป็นโรคร้ายได้ ผัก 5 ชนิดที่ไม่ควรกินสดก็คือ

1. ถั่วงอกและถั่วฝักยาว

ผักตระกูลถั่วสองชนิดนี้ คนไทยเรานิยมนำมากินดิบกันมาก ในหลายเมนูอาหาร เช่นอาหารอีกสานพวกลาบส้มตำ จะนิยมกินถั่วฝักยาวแนม ก๋วยเตี๋ยวเรือ และผัดไทยก็จะนิยมกินถั่วงอกสดร่วมด้วย แต่ถั่วทั้งสองมีอันตราย ถั่วฝักยาวมักเต็มไปด้วยยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมีที่สะสมอยู่ หากจะให้ปลอดภัยควรทำให้สุกหรือล้างแช่น้ำไว้อย่างน้อย ครึ่งวัน ถั่วงอกจะปนเปื้อนสารฟอกขาวที่ทำให้ถั่วงอกดูขาวสวย ทำให้คลื่นไส้ถ้ากินมาก และสะสมเป็นสารพิษในร่างกาย และยังมีแบคทีเรียชื่อ อีโคไล และซัลโมเนล่า กินแล้วจะทำให้ท้องเสียรุนแรง

 ถั่วงอก

2. ผักตระกูลกะหล่ำ

ได้แก่กะหล่ำปลี กะหล่ำม่วง ดอกกะหล่ำ บล็อกโคลี่ ในผักเหลานี้มีสารชื่อกอยโตรเจน อันตรายมากกับคนที่มีโรคเกี่ยวกับไทรอยด์ เพราะจะไปยับยั้งการที่ร่างกายนำไอโอดีนไปใช้ ในบล็อกโคลี่ มีน้ำตาลตัวหนึ่งที่ต้องผ่านความร้อนจึงกินได้ เพราะกินดิบจะไปทำให้ท้องอืด เกิดแก๊สจำนวนมากในท้อง

ผักกะหล่ำ
Close-up Fresh Wet Green Cabbage for Sale with Selective Focus

3. ผักตระกูลมัน

ได้แก่ มันฝรั่งและมันสำปะหลัง มันฝรั่งมีสารพิษชื่อไกลโคแอลคาลอยด์ มีฤทธิ์ ตั้งแต่เบื้องต้นทำให้คลื่นไส้อาเจียน ถ้าแพ้หนักถึงขั้นทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ หมดสติและตายได้ มันสำปะหลัง มีสารชื่อไซยาไนด์ คือสารพิษที่อยู่ในยาเบื่อนั่นเอง มีฤทธิ์ทำให้ แน่นหน้าอก มีน้ำลายฟูมปาก และทำให้หัวใจหยุดเต้น

4. ผักโขม

ผักโขมเป็นศัตรูกับแคลเซ่ยมโดยตรง เพราะสารในผักโขมที่ชื่อว่า กรดออกซาลิค จะไปขัดขวางไม่ให้แคลเซี่ยมดูดซึมและนำไปใช้

ผักโขม

5. หน่อไม้

หน่อไม้ดิบก็มีไซยาไนด์เช่นกัน 

 หน่อไม้

ผักทั้ง 5 ชนิดยังคงมีประโยชน์และมีรสชาติอร่อย แต่อย่าลืมก่อนกินจะต้องนำไปปรุงให้สุกจนแน่ใจก้อน โดยเฉพาะหน่อไม้ต้องต้มให้สุกอย่างน้อย 10 นาที เพื่อประโยชน์ที่มีต่อร่างกาย ห่าวไกลโทษจากผักดิบ