“เมื่อกล่าวถึงการทำเกษตรในเชิงอาชีพ เพื่อให้ได้รายได้เลี้ยงชีพและสร้างผลกำไร หลายคนมองไปที่พืชเศรษฐกิจหลายชนิดที่เห็นกันตามท้องตลาด แต่คนส่วนน้อยที่จะคิดถึงพืชปลูกง่ายอย่างว่านหางจระเข้ อาจจะเป็นเพราะว่านหางจระเข้เป็นต้นไม้ที่ดูธรรมดา ใคร ๆ ก็ปลูกใส่กระถางไว้ตามบ้านเรือน แต่ถ้าได้มาศึกษาและรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกว่านหางจระเข้เพื่อการค้า มุมมองที่มีต่อว่านแสนธรรมดาชนิดนี้ของคุณอาจจะเปลี่ยนไปตลอดกาล ทำให้คุณหันมาสนใจ จับพืชธรรมดานี้ปัดฝุ่นสร้างรายได้มหาศาลเข้ากระเป๋าก็เป็นได้”
ด้วยคุณสมบัติที่ดีของว่านหางจระเข้ คือ เป็นพืชที่ทนต่อทุกสภาพดินและสภาะอากาศทุกรูปแบบ ไม่มีปัญหาจุกจิกให้ต้องประคบประหงม ในการปลูกใช้ระยะเวลาเติบโตเพียง 6-8 เดือนก็สามารถตัดใบส่งขายทำกำไรได้แล้ว ในส่วนของลำต้นก็สามารถเลี้ยงให้เติบโตตัดใบในรอบต่อ ๆ ไป ในเวลาอีกกว่า 5-8 ปี ในส่วนของการขยายพันธุ์ ด้วยระยะเวลาเพียง 4-5 เดือน ว่านหางจระเข้จะมีการแตกหน่อใหม่ครั้งละ 5-7 ต้น เรียกได้ว่าลงทุนซื้อต้นพ่อพันธุ์เพียงครั้งเดียวก็ขยายหน่อให้อย่างมากมายในเวลาอันสั้น
การลงทุนเริ่มแรกสำหรับการปลูกว่านหางจระเข้จึงเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างต่ำ คือในการปลูกพื้นที่ 1 ไร่ ลงทุนค่าต้นพันธุ์จำนวน 2,000-2,500 ต้น รวมการติดตั้งระบบให้น้ำแบบสปริงเกอร์ จะเป็นเงินประมาณ17,000-20,000 บาท เมื่อเทียบกับปริมาณ 1 ไร่แล้ว นับว่าถูกกว่าการลงทุนในพืชชนิดอื่นทีเดียว ผลผลิตว่านหางจระเข้ 1 ไร่ เมื่อครบ 8 เดือน ต้นโตแข็งแรงเต็มที่ ตัดใบส่งขาย จะได้ปริมาณโดยรวม 1.5 ตัน สร้างรายได้ประมาณเดือนละ 25,000-30,000 บาท การดูแลพืชชนิดนี้ก็ไม่ยาก ต้องให้ความสำคัญกับสภาพดิน ว่านหางจระเข้เจริญได้ดีในดินร่วนผสมดินทรายที่มีอาหารดินเพียงพอ ไม่ชอบความชื้นหรือน้ำขัง ไม่ต้องการน้ำมากและไม่ค่อยพลปัญหาแมลงศัตรูพืช สิ่งที่ต้องดูแลเพิ่มเติมคือ ว่านหางจระเข้ไม่ชอบแสงแดดจัด การดูแลใน 1 ไร่ ใช้แรงงานคนเพียง 1-2 คนก็สามารถจัดการได้อย่างดี
ช่องทางในการขายและทำกำไรสำหรับว่านหางจระเข้ อยู่ที่การติดต่อหาโรงงานรับซื้อว่านหางจระเข้เป็นหลัก และอีกช่องทางหนึ่งคือ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ว่านหางจระเข้เพื่อจำหน่าย ยกตัวอย่างเช่น น้ำว่านหางจระเข้ สบู่สมุนไพรว่านหางจระเข้ โลชั่น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจากว่านหางจระเข้ อาหารแปรรูปรูปแบบต่าง ๆ ที่ทำจากว่านหางจระเข้ ซึ่งสามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ในแบรนด์ของตนเองและขอการจดทะเบียน อย.อย่างถูกต้องต่อไปได้ ใครที่มองหาพืชตัวใหม่และมีช่องทางความพร้อม ว่านหางจระเข้อาจจะเป็นพืชที่เปิดช่องทางอนาคตที่สดใสให้คุณก็เป็นได้